วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2566

ยิ่งกว่าในหนัง! ตร.ทางหลวงไล่ล่าโจรขโมยรถขับหนีข้ามจังหวัดกว่า 200 กม.หนุ่มอ้างกลับบ้านจัดงานวันเกิด


วันนี้ (30 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุไล่ล่าระทึก ตำรวจทางหลวงเพชรบูรณ์บึ่งรถฉลามบกไล่ล่าโจรขโมยรถปิกอัพสาวเสาไห้จอดไว้หน้าเทศบาลฯ ตะกุด จ.สระบุรี คนร้ายบึ่งข้ามจังหวัด เร่งเครื่องหนี ตร.เข้าซอยรถเสียหลักพลิกคว่ำ ยังหนีต่อ สุดท้ายโดนรวบคาทุ่งนาหมู่บ้านบัววัฒนาหนองไผ่ ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เบื้องต้น คนร้ายขโมยรถปิกอัพคันดังกล่าวมาพื้นที่ตัวเมืองจังหวัดสระบุรี กระทั่งทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวขโมยขับขี่มาตามถนนทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก) จ.เพชรบูรณ์ ทราบชื่อภายหลังคือ นายธนายุทธ มัคมัน อายุ 32 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 223 หมู่ที่ 2 ต.ศาลาลาย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ในข้อหา "ลักทรัพย์" พร้อมด้วยของกลาง รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว สีดำ ทะเบียน บร 4976 อ่างทอง สุดท้ายนายธนายุทธฯ ผู้ต้องหา ยอบรับว่าไม่มีเงินกลับบ้านและต้องการขับรถกลับไปฉลองวันเกิดตัวเองย้อนหลังที่บ้านเกิด จึงก่อเหตุขโมยรถยนต์ปิกอัพมาจากลานจอดรถเทศบาลฯ ตะกุด อ.เมืองสระบุรี เพื่อขับกลับบ้านที่ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์


พ.ต.ท.วรบดินทร์  เลิศศุภสินสถิต สว ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่าเวลาประมาณ 11.23 น.ได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.ไกรสร  ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี ว่า น.ส.จริยา  อ่องจรุง อายุ 39 ปี เลขที่ 61/165 หมู่ 7 ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ผู้ครอบครองรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ารุ่น รีโว สีดำ ทะเบียน บธ-4975 อ่างทอง ได้ขับรถคันดังกล่าวจอดไว้บริเวณลาดจอดรถเทศบาลตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี เวลาประมาณ 10.27 น.ของวันที่ 30 มี.ค.2566 เพื่อเข้าไปติดต่อราชการ กระทั่งเวลาประมาณ 11.30 น. น.ส.จริยาฯได้เดินมายังที่จอดรถปรากฏว่ารถได้สูญหายไปไม่ทราบว่าผู้ใดลักเอาไป  จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรีให้ช่วยติดตามจนทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวไม่ทราบว่าผู้ใดลักเอาไป ขับขี่มุ่งหน้ามาตามถนน ทล.21 (สระบุรี-หล่มสัก) จึงประสานขอกำลังตำรวจทางหลวงเพชรบูรณ์ช่วยติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้


ขณะที่ รถวิทยุตำรวจทางหลวง 1503 พบรถยนต์คันดังกล่าวขับขี่มาตามถนนสายสระบุรี-หล่มสัก มุ่งหน้าไปทาง อ.หล่มสัก ช่วง กม.ที่ 167 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จึงได้ส่งสัญญาณเรียกให้หยุดรถแต่คนขับรถยนต์คันดังกล่าวไม่ยอมหยุด ยังขับรถย้อนศรในเส้นทางเดิมกลับไปทางสระบุรี จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ไล่ติดตามและเรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถตลอดเวลา แต่ปรากฏว่าไม่ยอมหยุดกลับขับขี่ด้วยความเร็ว จนมาถึงช่วง กม.160 ยังได้ขับขี่รถเลี้ยวหลบหนีเข้าไปในซอยภายในหมู่บ้านบัววัฒนาด้วยความเร็วจนเกิดเสียหลักรถพลิกคว่ำ ก่อนเปิดประตูรถวิ่งหลบหนี ตำรวจชุดจับกุมวิ่งไล่ล่าติดตามจนได้ตัวบริเวณกลางทุ่งนาภายในหมู่บ้านบัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ก่อนควบคุมตัวพร้อมรถยนต์ของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองไผ่ เพื่อทำการสอบสวน ก่อนคุมตัวนายธนายุทธฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ห่วงใยทุกชีวิต เป็นมิตรทุกเส้นทาง ทำทุกอย่างด้วยสำนึก เพราะเราคือตำรวจทางหลวง(เพชรบูรณ์) #วัฒนธรรม3วินัย #วินัยตนเอง

นายสัณหณัฐ  กางถิ่น ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์


วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2566

น่าอนาถใจ! ผู้ป่วยติดเตียงบ้านถูกลักตัดมิเตอร์ไฟฟ้าเสียชีวิตแล้ว

 

จากกรณีบ้านพักอาศัยของนางวรพรรณ  มีเพชร อายุ 48 ปี (ผู้ป่วย) หมู่ 4 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากนางวงเดือน จันทศร เป็น อสม.ต.บ้านโตก และเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยรายนี้ วอนขอความช่วยเหลือมายังสื่อมวลชนว่าบ้านของนางวรพรรณ ถูกลักตัดถอดหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าไป ทั้งที่เขานอนป่วยติดเตียงนอนเหงื่อท่วมตัวอยู่ภายในบ้านที่ร้อนอบอ้าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบนายวาน  มั่นทอง อายุ 80 ปี นั่งเฝ้านางวรพรรณฯ

โดยมีนายวาน มั่นทอง ผู้เป็นพ่อต้องคอยพัดวีและเช็ดตัวให้ท่ามกลางความมืดและมีอากาศร้อนอบอ้าวตลอดเวลา เนื่องจากช่วงนี้อากาศร้อนจัดไม่สามารถใช้พัดลมได้เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้า สอบถามทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ได้มาถอดสายไฟและยกหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 มี.ค.256ที่ผ่านมา


ล่าสุดวันที่ 29 มี.ค.6นางวงเดือน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้นางวรพรรณฯ ได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งตอนนั้นทุกคนในครอบครัวไม่คาดคิดว่าจะเสียชีวิตกระทันหันแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้นางวรพรรณฯ ก็พูดคุยและยิ้มร่าเริงดี ขณะที่นายวานฯ ผู้เป็นพ่อและลูกๆ ได้พากันร่ำไห้เสียใจอย่างน่าอนาถ



สาเหตุของการเสียชีวิต นางวงเดือนเล่าว่าคงต้องรอผลการชันสูตรจาก ร.ต.อ.สุภัคสิษฐ  บัวบุตร ร้อยเวร สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และน.พ.รัฐกร  เพิ่มสุวรรณ นิติเวช รพ.เพชรบูรณ์ ว่าสาเหตเกิดจากอะไรกันแน่ ส่วนศพของนางวรพรรณฯ ญาติได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดอินทร์เจริญ ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

“ท่านที่มีจิตศรัทธาสามารถไปร่วมทำบุญได้ที่นางวงเดือน จันทศร อสม.ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โทร.095-6358295” ความคืบหน้าจะนำมาเสนอครั้งต่อไป

 


วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566

ชาวบ้านสุดทน! การไฟฟ้าฯ ลักตัดไฟฟ้าบ้านคนพิการเหงื่อท่วมตัว วอนช่วยเหลือด่วน

วันนี้ 27 มี.ค.66 เวลา 18.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 4 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ หลังได้รับการขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่า มีบ้านหลังหนึ่งถูกลักตัดถอดมิเตอร์ไฟฟ้าไป ทั้งที่มีผู้ป่วยติดเตียงนอนเหงื่อท่วมตัวอยู่ภายในบ้านที่ร้อนอบอ้าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบนายวาน  มั่นทอง อายุ 80 ปี นั่งเฝ้านางวรพรรณ  มีเพชร อายุ 48 ปี (ผู้ป่วย)ซึ่งนอนป่วยติดเตียงอยู่ภายในบ้านท่ามกลางความมือและร้อนอบอ้าว นายวาน มั่นทอง ผู้เป็นพ่อต้องคอยพัดและเช็ดตัวให้ตลอดเวลา เนื่องจากอากาศร้อนจัดและไม่สามารถใช้พัดลมได้เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้า จากการสอบถามทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มาถอดสายไฟและยกมิเตอร์ไฟฟ้าไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 มี.ค.66 จนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้แต่อย่างใด


นายวาน มั่นทอง เล่าให้ฟังว่า ตนมีอาชีพรับจ้างและอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับนางวรพรรณฯ ลูกสาว และนายชาติชัย  มีเพชร ลูกเขยแต่ขณะนี้ก็ป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เพชรบูรณ์ และมีหลานอีก 2 คน  รวมเป็น 5 คน ส่วนนางวรพรรณฯ เป็นลูกสาวของตนนอนป่วยติดเตียงมานานกว่า 4 เดือนแล้วไม่สามารถเดินหรือขยับตัวได้ ทุกวันนี้ตนเองต้องเฝ้าและป้อนอาหารปั่น อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายเป็นประจำทุกวันและตนไม่สามารถออกไปรับจ้างทำงานหาเงินได้ เพราะนางวรพรรณ ไม่มีผู้ดูแล

โดยเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 24 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ขณะตนนั่งเฝ้าลูกอยู่ข้างเตียง จู่ๆไฟฟ้าภายในบ้านก็ดับลง สักพักเหลือบไปเห็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ กำลังตัดถอดสายไฟแล้วยกหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าไป ตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะต้องเฝ้าลูกสาว ทุกข์ใจมากเกรงว่าหากไม่มีไฟฟ้าใช้ก็จะทำให้ลูกอาการทรุดลงและหลานอีก 2 คน ก็จะลำบากเดือดร้อนตามไปด้วย

ขณะที่นางวงเดือน จันทศร เป็น อสม.ต.บ้านโตก และเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยรายนี้ หลังทราบข่าวก็รีบเดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าวพร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า นางวรพรรณ เป็นคนนิสัยดีและเป็นเสาหลักของครอบครัวมีอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้าน แต่พอมาล้มป่วยติดเตียงก็ไม่สามารถทำงานหาเงินได้และที่คาใจคือก่อนจะตัดไฟทำไมไม่เรียกไม่ถามคนที่อยู่ในบ้านให้รับทราบก่อนที่จะตัดไฟและรู้หรือป่าวว่าบ้านหลังนี้มีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ ชาวบ้านค้างชำระค่าไฟเพียง 2 เดือนเป็นเงินแค่ 3 ร้อยกว่าบาทเท่านั้น ทำไมถึงไม่บอกไม่ถามเขาก่อนตัด รู้ไหมว่าบ้านนี้เขามีผู้ป่วยติดเตียงเขาเดือดร้อน (ทุกวันนี้เขาก็ทรมานอยู่แล้ว)

ถามว่าถ้าเขามีเงินเขาจะค้างจ่ายค่าไฟหรือ วันนี้นางวงเดือน จันทศร จึงได้ให้ลูกสาวของตนไปจ่ายค่าไฟที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์ แล้วตั้งแต่เช้าจนป่านนี้ 4 โมงเย็นแล้วก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ กฟภ.มาติดมิเตอร์ไม่รู้ว่าจะรอให้ผู้ป่วยเสียชีวิตก่อนหรือยังไงไม่ทราบถึงจะมาติดตั้งให้ให้ใช้ไฟ การที่ตนออกมาโวยครั้งนี้ไม่ได้อยากเด่นอยากดังอะไรหรอก แค่อยากถามว่าผู้มีอำนาจการไฟฟ้าฯมัวทำอะไรกันอยู่ทำไมถึงไร้เมตตาธรรมอย่างนี้ อย่ารอให้ดับก่อนติดเลย ได้โปรดเห็นใจประชาชนบ้าง

“สำหรับท่านที่มีจิตศรัทธาบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงรายนี้ สามารถติดต่อได้ที่นางวงเดือน จันทศร อสม.ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โทร.095-6358295”




 

วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2566

ตร.เพชรบูรณ์ ทำลายอาวุธปืนผิดกฎหมายกว่า 2,000 กระบอก เข้มมาตรการปราบปืนเถื่อนต่อเนื่อง

 

วันนี้(27 มี.ค.66) เวลา 09.30 น.พล.ต.ต.ฐเดช  กล่อมเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีทำลายอาวุธปืนของกลางกว่า 2,000 กระบอก ที่ศาลได้มีคำสั่งให้ริบเป็นของกลางและคดีถึงที่สุดแล้ว ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวได้ถูกเก็บไว้ที่สถานีตำรวจภูธรในสังกัดโดยการทำลายผ่านเครื่องจักรบดอัดให้เสียสภาพและอุปกรณ์ตัดทำลายเพื่อให้อาวุธปืนของกลางทั้งหมดสิ้นสภาพไม่สามารถนำไปใช้งานก่อเหตุในคดีอาญาได้หรือลักลอบจำหน่ายไปยังบุคคลไม่หวังดีหรือตกอยู่ในมือของคนร้าย รวมทั้งสั่งกำชับตำรวจเข้มมาตรการอาวุธปืนต่อเนื่องตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน

พล.ต.ต.ฐเดช  กล่อมเกลี้ยง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกมิติ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าวโดยสั่งการหน่วยระดมกวาดล้างจับกุม ขยายผล ทลายเครือข่ายอาวุธปืนผิดกฎหมาย รวมทั้งการลักลอบค้าปืนออนไลน์ พร้อมกำชับการจำหน่าย ทำลายอาวุธปืนของกลาง เพื่อป้องกันมิให้มีการนำเอาอาวุธปืนดังกล่าวกลับมาใช้ก่อเหตุในคดีอาญาได้


พิธีทำลายอาวุธปืนของกลางครั้งนี้จำนวน 1,136 กระบอกไม่ให้มีการนำอาวุธของกลางซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วออกไปใช้ในทางมิชอบ การทำลายอาวุธปืนของกลางเป็นมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายของตำรวจที่สั่งการให้เพิ่มความเข้มดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกมิติ ทั้งการระดมกวาดล้าง จับกุมแหล่งผลิต จำหน่าย การลักลอบจำหน่ายออนไลน์ เมื่อจับกุมได้ให้ขยายผลดำเนินการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังทุกรายเพื่อแก้ปัญหาอาวุธปืนผิดกฎหมายไม่ให้นำมาก่อเหตุความรุนแรงในสังคมอีกด้วย

นายสัณหณัฐ  กางถิ่น ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์


“จิตอาสาตำรวจเมืองเพชรบูรณ์” จัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้เด็กพิการ

  วันที่ 25 มิ.ย. 2564 เวลา 12.00 น. ที่โรงเรียนโสตศึกษา จ.เพชรบูรณ์ ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ นำโดย พ.ต.อ.ชัชวาล  พวงคิด ผกก.สภ.เมืองเพ...